The Coverfield เป็นภาพยนตร์ที่มีคนรอคอยกันพอสมควรในปีนั้น เพราะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยปริศนา ข่าวลือ ต้องบอกกล่าวกันอย่างหนึ่ง ผมเป็นคลั่งไคล้หนังสัตว์ประหลาดมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งมาโปรโมต ว่าใช้มุมกล้องแบบ มุมมองบุคคลที่หนึ่ง(First personal) แบบเรื่อง The Blair Witch Project. ผมพร้อมที่จะเวียนหัว หลายปีมาแล้วตั้งแต่มีระบบCG เข้ามามีบทบาทในโลกภาพยนตร์ เสน่ห์แบบหนังผี หนังสัตว์ประหลาดเก่าๆ หายไป เราจะเห็นเด่นชัดในรายละเอียด ทุกรูขุมขน เรียกได้ว่าไม่ต้องจินนาการกันเลย ถึงเวลาไปดูมันโผล่ออกมาแบบเห็นกันจนเบื่อ ผมไปดูหนังที่กำลังเป็นกระแสที่พูดถึงกันมากในขณะนี้ COVERFIELDตัวบทภาพยนตร์นั้งเล่นกับความกลัวของมนุษย์ กับสิ่งที่ไม่เคยเห็น ในที่นี้เป็นสัตว์ประหลาดที่เขามาถล่มเมืองนิวยอร์ค หนังด้แบ่งกลุ่มคนดูออกอย่างเด่นชัดในคำตอบ ที่ว่าชอบหรือไม่ชอบ หากคุณคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบเต็มๆ ชัดเจน และพกความคาดหวังแบบหนังที่มีตัวเอกผ่าฟันอุปสรรค ไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาด เพื่อเอาชีวิตรอด ช่วยมวลมนุษยชาติพยายามไปดูเรื่องอื่น ผมกลัวคุณจะเสียดายเงิน
ผมชอบความเป็นเรียลริตี้ของหนัง ไม่ต้องเกริ่นนำ ไม่จำเป็นต้องสร้างที่มา หรือสรุป เพราะทุกคนที่ดูจบจะกลับบ้านไปหาแบบสรุปของตัวเอง เป็นหนังที่ให้เกียรติคนดูอย่างแท้จริง ขออนุญาตเหน็บคนทำหนัง(ผมไม่ได้รับเกียรติเรียกเขาว่าผู้กำกับ)บางคนในบ้านเรา บอกไว้ว่า “จะเอาอะไรมากกับหนัง แค่เข้าไปดูคลายเครียดก็พอแล้ว” ผมไม่ดูหนังที่คนนั้นทำอีกเลยครับ ให้บัตรฟรีก็ไม่ไป(ไปเดากันเอาเองว่าใคร หลายคนคงคิดแบบผม)
ข้อเสียของหนังเรื่องนี้เป็นของกลุ่มคนดูที่ชอบคือ ทำไมสั้นจัง(คาดหวังว่าจะมีแบบDirector’s cut มาให้ดูอีก) หรือว่าความตื่นเต้นนั้นทำให้ระยะเวลาสั้นลง ไม่มีดนตรีประกอบ ก็แน่นอนครับ ไม่มีดนตรีมาเร่งอารมณ์ให้ตื่นเต้นแน่นอน ต้องขอโทษถ้าบางส่วนของเนื้อหาจะไม่ตรงใจท่าน ผมต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้
หนังใหม่ ซีรี่ย์ใหม่ ได้ที่นี้ www.lslinstruments.org